วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560

Review : WASO Fresh Jelly Lotion โลชั่นบำรุงผิวสารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว

สวัสดีค่ะสาวๆกลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ
หลายๆคนคงจะได้เห็นแบรนด์ Shisedo เปิดตัวสกินแคร์ไลน์ใหม่ WasoByShiseido กันไปแล้ว ที่ใช้แนวคิดกำเนิดผิวสวยด้วยพลังจากธรรมชาติ ปราศจากการเสริมแต่งที่เกินความจำเป็น เพื่อเผยพลังความงามที่มีอยู่ในตัวเราให้เปล่งประกาย ซึ่งดูมีความอ่อนโยนน่าใช้มากๆ และวันนี้ฟอยด์ก็จะมารีวิวตัว WASO Fresh Jelly Lotion โลชั่นบำรุงผิวสารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว ให้เพื่อนๆได้ชมกัน


WASO Fresh Jelly Lotion โลชั่นบำรุงผิวเนื้อเจลใสจากชิเซโด้ มีส่วนผสม White Jelly Mushrooms เพื่อสร้างความชุ่มชื่นและชุ่มฉ่ำให้แก่ผิว Kikurage หรือ White Jelly Mushroom ได้รับการยกย่องคุณค่า ในประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นอาหารเพื่อผิวสวย เพราะสามารถอุ้มน้ำได้ดุจดังฟองน้ำ และแม้จะถูกเก็บในรูปแบบแห้ง ก็จะสามารถคืนสู่สภาพอวบอิ่มเหมือนเพิ่งเก็บมาใหม่ๆ ได้เมื่อแช่น้ำ


คุณสมบัติ : โลชั่นเนื้อเจลสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ มอบความชุ่มชื้นแบบฉ่ำชุ่มอย่างเต็มพิกัด ด้วยสูตร gel-to-lotion สามารถแปรสภาพจากเนื้อเจลกลายเป็นโลชั่น พร้อมมอบความสดชื่นและฟื้นฟูอิ่มเอิบผิวได้ในทันที ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง พาราเบน และ mineral oil

 


ตัวนี้จะเป็นขนาด 50 ml นะคะ ไซส์ขายปกติจะเป็นขนาด 150 ml


เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจล เมื่อนวดลงบนผิวจะกลายเป็นโลชั่นที่มีความฉ่ำน้ำมาก สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ทันที ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่น สุขภาพดี

 


วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิว บีบออกมาในปริมาณพอเหมาะ (1.5-2 มล.) ลงบนแผ่นสำลี หรือฝ่ามือ แล้วลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า เนื้อเจลจะแปรสภาพเป็นเนื้อโลชั่นซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย

 

ความรู้สึกหลังใช้
ชอบ Texture ของผลิตภัณฑ์มากที่เปลี่ยนจากเจลกลายเป็นโลชั่นที่มีความฉ่ำน้ำขั้นสุด ตามคอนเซ็ปต์ WasoBeautyWonderland เลยค่ะ และยังซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วทั้งที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี ผิวบริเวณขอบปากที่แห้งลอกของฟอยด์ดีขึ้นมาก ชอบมากเลยค่ะ

 

Fresh Jelly Lotion ขนาด 150 มล. ราคา 1,200 บาท
สถานที่จำหน่าย : เคาน์เตอร์ ShiseidoThailand ทุกสาขา
ติดตามรายละเอียดข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆได้ที่ https://www.shiseido.co.th/lines/WASO/
สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ
Bye Bye



วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560

Review : Botanics Facial Mask แผ่นมาส์กหน้าสูตรอ่อนโยนจากธรรมชาติ

ถ้าพูดถึงแบรนด์ Mentholatum สาวๆจะนึกถึงอะไรกันคะ คงจะต้องเป็นลิปมันแน่ๆ เพราะฟอยด์เองก็รู้จักลิปมันแบรนด์นี้เป็นแบรนด์แรกๆเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เค้ามีผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดออกมา เป็นแผ่นมาส์กออแกนิก บอกเลยว่าน่าใช้มาก เดี๋ยวเรามาดูกันว่าจะดีงามขนาดไหน


Botanics facial mask คุณค่าธรรมชาติเพื่อผิวสวยของคุณ
โบทานิคส์ เป็นแบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ทุกผลิตภัณฑ์ผลิตขึ้นโดยผสานคุณค่าที่ดีที่สุดจากพืชสมุนไพรเพื่อดูแลผิวคุณ

 

แผ่นมาสก์ผลิตจาก เส้นใยไลโอเซล ที่มีคุณสมบัติพิเศษ
ยึดติดดีกว่า
- แผ่นมาส์กจะแนบติดกับผิวหน้าพอดี ทำให้เอสเซ้นซ์ซึมซาบเข้าบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก
- หมดปัญหาแผ่นมาส์กลื่นไหลลงจากหน้าขณะมาส์ก
บางกว่า
- เมื่อมาส์กลงบนผิวหน้า จะสามารถระบายอากาศได้อย่างดี
เบาสบายผิว ยิ่งกว่า
- ขณะมาส์ก จะรู้สึกสบายไม่หนักหน้า ไม่อึดอัด>
ทุกสูตรไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีสารกันเสีย **
อ่อนโยน, ปลอดภัย, บริสุทธิ์, มีคุณค่าต่อผิว, ประสิทธิภาพเข้มข้น 100%

 

ซึ่งเค้าออกมาทั้งหมด 4 สูตร คือ


สูตรที่ 1 • Botanics Rosehip Oil Brightening & Firming Facial Mask 
ผิวกระจ่างใสและกระชับ


สูตรที่ 2 • Botanics Aloe Vera Hydration & Brightening Facial Mask 
ผิวชุ่มชื่นและกระจ่างใส


สูตรที่ 3 • Botanics Lavender Soothing & Repairing Facial Mask 
ช่วยผ่อนคลายและฟื้นฟูผิว


สูตรที่ 4 • Botanics Pomegranate Anti-Oxidant & Hydration Facial Mask 
ผิวชุ่มชื่นพร้อมช่วยต้านอนุมูลอิสระ


เดี๋ยวเรามาลองใช้กันดูดีกว่า
วันนี้ฟอยด์จะลองใช้สูตรลาเวนเดอร์ เพราะยังไม่เคยเห็นจากแบรนด์ไหนเลย


ส่วนผสม
ดอกลาเวนเดอร์ ช่วยผ่อนคลายผิวที่เหนื่อยล้า ให้สดชื่นและมีชีวิตชีวา
 คาโมมายล์ ช่วยปลอบประโลม ฟื้นฟูผิว และสร้างเกราะป้องกันผิวบอบบางจากมลภาวะ
ไฮยาลูโรนิค แอซิด ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท และผิวแพ้ง่าย


เมื่อฉีกซองออกมา ก็ได้กลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ แผ่นมาส์ฉ่ำน้ำมาส์กมากทีเดียวค่ะ
วิธีใช้



1.หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้วคลี่แผ่นมาส์กออกให้พอดีกับหน้า พยายามรีดให้แผ่นมาส์กแนบสนิทไปกับผิวหน้า เซ่รั่มจะได้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างดี




2.ทิ้งไว้ 10 - 15 นาทีแล้วลอกแผ่นมาส์กออก


3.นวดเบาๆบนใบหน้าและลำคอเพื่อให้สารบำรุงซึมซาบอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น


ความรู้สึกหลังใช้
คือดีมากกกกก ชอบมากกกก ช่วงนี้ฟอยด์ทำงานเลิกดึกทุกวัน ผิวจะดูโทรมๆ หลังจากที่ได้ใช้มาส์กแค่ 15 นาที ผิวกลับดูไบรท์กระจ่างใสขึ้นทันที ผิวดูเฟรช ชุ่มชื่น สดใสสุขภาพดี ลักษณะแผ่นมาส์กนุ่มๆ แนบสนิทกับผิวหน้าได้ดี ได้กลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆขณะมาส์กช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เลิฟมาก ให้ 10/10 ไปเลยค่า

 

ราคาแผ่นละ 69 บาท
สถานที่จำหน่าย watsons, eve and boy, Tops, Big C
*** แต่สูตรลาเวนเดอร์ กับสูตรทับทัม จะมีขายเฉพาะที่ Watsons เท่านั้นนะคะ**


สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ
Bye Bye



วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

Review : เปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย ด้วย Milbon Smooth Luminous Softening Oil

สวัสดีค่ะสาวๆ กลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ
ช่วงที่ผ่านมา ต้องบอกว่าฟอยด์มีปัญหาผมเสียค่อนข้างมากทั้งแห้งเสีย หยาบกระด้าง และชี้ฟู เนื่องจากการทำสี และโดนความร้อนจากการไดร์ และการหนีบผม เป็นประจำเกือบทุกวัน ก็เลยพยายามซื้อหาตัวช่วยบำรุงผมมาลองมากมาย และฟอยด์ไปเจอตัวนึงมา พี่ๆช่างที่ร้านทำผมแนะนำมาค่ะว่าใช้ดี


วันนี้ก็เลยมี 1 ไอเท็มดีๆ ที่ใช้แล้วเห็นผลอยากมาแนะนำให้เพื่อนได้ดูกัน นั่นก็คือ
Milbon Smooth Luminous Softening Oil ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม แบบไม่ต้องล้างออก


MILBON (มิลบอน) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นผมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ที่ทำงานร่วมกันกับแฮร์สไตลิสต์และส่งเสริมธุรกิจซาลอน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจึงมีจำหน่ายเฉพาะในร้านซาลอนเท่านั้น มีตั้งแต่สีย้อมผม น้ำยาดัดยืด ซาลอนทรีตเมนต์ โฮมแคร์ สไตล์ลิ่ง 


สำหรับฟอยด์ผมเส้นใหญ่ จะใช้สูตร Milbon Smooth Luminous Softening Oil  (Coarse Hair)


ตัวนี้เค้า Made in Japan เลยนะ ราคา 1,450 บาท


1 ขวด ได้ปริมาณถึง 120 ml เยอะมากกกก ใช้ได้นานมาก ฟอยด์ว่าอย่างน้อยๆ 6 เดือน
คุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน


ลักษณะเป็นขวดหัวปั้ม ใช้งานง่าย สามารถควบคุมให้ผลิตภัณฑ์ออกมาได้ตามปริมาณที่ต้องการ


ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นออยล์เหลวๆใสๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ไม่เหนียวเลยคุณ ใครที่กังวลว่าใช้ออยล์แล้วผมจะมัน ตัวนี้ไม่มันเลยค่ะ


 วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย หลังจากสระผมเสร็จแล้วก็เป่าให้หมาดๆ


กดออยล์ลงบนฝ่ามือ ผมประบ่าใช้ประมาณ 1-2 ปั๊ม ผมยาวหนา 3-4 ปั๊ม นะคะ


เกลี่ยเนื้อออยล์ให้ทั่วมือ


แล้วใช้มือสางผม


ไล้ให้ทั่วโดยเน้นบริเวณกลาง-ปลายผม


แล้วก็เป่าให้แห้ง


เท่านี้ก็ได้ผมสวยเหมือนได้เข้าซาลอนเป็นประจำ มีช่างผมมืออาชีพคอยดูแลเลยล่ะค่ะ



ความรู้สึกหลังใช้ Milbon Smooth Luminous Softening Oil
คือดีมาก ชอบมากกกก ก.ไก่ล้านตัว แค่ใช้ครั้งแรกก็ช่วยให้ผมนุ่มลื่น พลิ้วสวย สุขภาพดี ไม่พันกันระหว่างวัน ยิ่งใช้ต่อเนื่องก็ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น ดูเงางาม และขาดร่วงน้อยลง ตัวเนื้อออยล์ก็เข้มข้นกำลังดี ไม่ทำให้ผมเหนียวและมันอย่างหลายๆตัวที่เคยใช้มา ฟอยด์แนะนำจริงๆค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจสามารถดูรายชื่อร้านที่จำหน่าย MILBON นี้ได้ Link นี้เลยนะคะ http://salonlist.milbon.co.th


นอกจากดูแล ผิวหน้าและผิวกายให้สวยใสสุขภาพดีแล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจดูแลเส้นผมอยู่เสมอ เพื่อจะได้สวยครบ 360 องศาอย่างแท้จริงนะค๊า

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ
Bye Bye

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

Review : C-Tive Cheek Colors No.3 บลัชออน 2 in 1 สัญชาติญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะสาวๆ กลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ
ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่ากำลังอินกับเครื่องสำอางแบรนด์ญี่ปุ่นเป็นพิเศษ
เพราะแต่ก่อนเนี่ยต้องบอกตามตรงว่า แอบรู้สึกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ราคาจะสูง มากกว่าพวก Drugstore ทางฝรั่งอยู่พอสมควร แต่หลังจากได้มีโอกาสลองผลิตภัณฑ์หลายตัว ต้องบอกว่าประทับใจในคุณภาพมากๆ เรียกว่าราคาหลักร้อย คุณภาพระดับเคาท์เตอร์แบรนด์เลยทีเดียว


และสำหรับวันนี้จะมารีวิวอีก 1 Item ที่ลองแล้วชอบมาก นั่นก็คือ
C-Tive Cheek Colors
บลัชออน 2 ni 1 ที่มีทั้งแบบครีมและแบบฝุ่นในอันเดียว ออกแบบโดย Make up artist คนดังของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า ชิโนบุ อิการิ ผู้นำเทรนด์ปัดแก้มใต้ตา โดยสไตล์การแต่งหน้าของอิการิจะจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ใช้นิ้วมือมากกว่าการใช้แปรง ซึ่งปัดแก้ม C-Tive ในคอลเลคชั่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน


มีครบทั้งแดง ชมพู และส้ม ครอบคลุมโทนสีออริจินอลที่ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ

 


สำหรับสีที่ฟอยด์จะมารีวิวในวันนี้จะเป็นเบอร์ 3



แพ็คเกจก็จะเป็นตลับกลมๆเล็กๆน่ารัก 2 อัน ที่สามารถซ้อนกันได้ เกร๋ๆ


ตัวเนื้อครีมจะเป็นสีแดงอมส้ม เนื้อเจลเกลี่ยง่าย ไม่เป็นปื้น 
สามารถแตะที่ปากเป็นทินท์ได้ด้วย ให้ปากสีระเรื่อดูสุขภาพดี


ส่วนบลัชแบบฝุ่นจะเป็นสีพีชๆ ส้มอมชมพูหน่อยๆ สวยมาก


ลองปาดขึ้นมา อู้ยยย สีแน่น 
ต่างจากบลัชสาย Jap สายเกาที่เราคุ้นเคย ว่าจะต้องซอฟๆใสใช้มั้ยล่ะคุ้นนนน


สวอชให้ชมกันแบบปังๆ ครีมบลัชสีส้มเกลี่ยแล้วสีจะระเรื่อมากๆเลยนะคะ แต่ฟอยด์ปาดประมาณ 3-4 รอบ เพื่อให้เห็นโทนสีที่ชัดเจน ส่วนตัว Powder สีแน่นปังมาก ปาด 2 รอบ ก็ได้สีชัดแล้วค่ะ


แล้วเรามาลองที่หน้ากัน

 

ค่อยๆใช้นิ้วกลางแตะครีมบลัชลงบนแก้ม เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบเลยค่ะ


ส่วนบลัชแบบฝุ่นสามารถใช้นิ้วลงได้นะคะ แต่ฟอยด์ขอใช้แปรงเพื่อเกลี่ยให้ทุกอย่างดูนัวมากขึ้นค่ะ แค่แตะแปรงเบาๆ ก็ Pick up สีขึ้นมาเยอะมว๊าก

 

เกลี่ยเบาๆที่หน้าแก้มและเฉียงขึ้นนะคะ เพื่อช่วยให้หน้าเรียวได้นีสนึง

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สีดูชัดสวย แน่นปังสุดๆเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ แต่ความประทับใจไม่ได้มีแค่นั้น เพราะแต่งหน้าตั้งแต่เช้า 4 ทุ่ม แก้มยังชัดอยู่เลยค่า บลัชของ C-Tive Cheek Colors เนี่ย เค้าติดทนสุดๆไปเลย และแพ็คเกจก็สามารถเอามาหมุนต่อกันได้ทุกสี ขนาดเล็ก กะทัดรัด แต่ปริมาณอัดแน่นเต็มประปุก Pigment แน่นปัง ใช้ได้นานมากแน่นอน ให้ 10 10 10 ไปเลยค่า

 


เพื่อนๆที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ร้านมัทสึโมโตะคิโยชิ ในราคา 880 บาท
แต่ได้ปัดแก้มถึง 2 สี ตกอันละ 440 บาทเท่านั้นค่า

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ
Bye Bye
 

Foy's Beauty Diary Template by Ipietoon Cute Blog Design

Blogger Templates