Review : ลิปจิ๋ว Golden Rose Velvet Matte Mini #มินิแม่หญิง

สวัสดีค่ะสาวๆกลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ

วันนี้อยากจะถามสาวๆหน่อยว่า เวลาไปเลือกซื้อลิปสติกที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางใช้เวลากันนานมั้ยคะ โดยเฉพาะโซนลิปสติก เชื่อแน่ๆว่าลองสวอชแล้วสวอชอีกก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะสีนั้นสีนี้ก็สวยไปหมด ถ้าจะต้องให้เลือกแท่งเดียวเนี่ย มันทำใจลำบากรักพี่เสียดายน้องจริงๆ ครั้นจะให้เหมาทุกสีงบเราก็มีจำกัด แถมซื้อมาเยอะก็ใช้ไม่ทัน หมดอายุก็ต้องจำใจทิ้งให้เสียดายอีก แต่วันนี้ไม่ต้องเลือกแล้วค่ะ แค่มีเงิน 159 บาท ก็ซื้อลิปสติกได้ไปเลย 5 สี ขุ่นพระ มันมีอยู่จริงหรอ???

มีจริงค่ะ ก็เซ็ท Golden Rose Velvet Matte Mini ยังไงล่ะ เซ็ทรวมลิปสติกแท่งจิ๋วสุดน่ารัก พกพาสะดวก เรื่องเนื้อลิปรุ่นนี้เค้าก็โด่งดัง ขึ้นชื่อเรื่องความสีชัด เป๊ะปัง อยู่แล้ว และความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือเซ็ทนี้ รุ่นแม่หญิง Lady เป็น 5 สีพิเศษ ที่สั่งทำเพื่อสาวไทยโดยเฉพาะ หาที่ประเทศอื่นไม่มีขายนะจ๊ะ

เดี๋ยวเรามาลองดูข้างในกันดีกว่า

เปิดมาด้านในคือแบบ น้องงงงงงง ทำไม่น่ารักขนาดนี้

แท่งเล็กน่ารักปุ๊กปิ๊ก

แต่ก็ว่าไม่ได้เห็นแท่งจิ๋วแบบนี้ ก็ใช้ได้ 10 กว่าครั้งเลยนะเออ

เซ็ทนี้จะประกอบไปด้วยลิปสติกทั้งหมด 5 สี ที่จะเสริมพลังให้เราได้เป็นเลดี้ในทุกวันและเวลา

คือมีหมดตั้งแต่ ส้ม แดง ชมพู คลอบคลุมตั้งแต่โทนนู้ดยันแซ่บ

ลิปเนื้อแมทกำมะหยี่ สีชัดมาก กลบสีปากมิดเลย เนื้อเนียนนุ่ม ทาง่าย ไม่ทำให้ปากแห้ง

21 โทนส้มสดใส

22 สีแดงอมน้ำตาลก่ำๆสวยมาก ชอบมาก อยากไปซื้อไซส์จริงเลยอ่ะ

25 สีแดงอมชมพูที่ทาแล้วดูขับผิว

 26 สีนู้ดส้มดูหวานๆ

31 สีนู้ดอมชมพู ผิวสองสีอย่างฟอยด์ก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน แต่เอาสีแดงมาแท็บๆกลางปากหน่อยก็สวยแล้ว ข้อดีที่เรามีหลายสีก็ทาผสมกันได้สบายเลย

สำหรับใครที่ชอบเปลี่ยนสีลิปสติกระหว่างวันบ่อยๆก็ขอแนะนำ Golden Rose Velvet Matte Mini เลย เพราะเป็นผู้หญิงจะพกลิปสติกที่แท่งก็ได้ 555 แต่อันนี้มันจิ๋วมาก พกเยอะก็ไม่หนักกระเป๋า เนื้อลิปดีงาม คุณภาพเกินราคาจริงๆค่ะ แนะนำเลย

#มินิแม่หญิง #ลิปจิ๋ว #น้องมินิ

#velvetmattemini  #velvetmatteminilady

#goldenrosethailand

#minilady

ราคาเซ็ทละ 159 บาท หาซื้อได้ที่ Eveandboy ทุกสาขา และ Golden Rose FlagshipStore สยามสแควร์ซอย2

หรือ online ผ่านLine ที่ @goldenrosethailand

(https://line.me/R/ti/p/%40goldenrosethailand)

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ Blog หน้าค่ะ

Bye Bye

Review : Puricas Dragon Blood Scar Gel เจลลดรอยแผลเป็นที่ทุกคนควรมีติดบ้าน

สวัสดีค่ะสาวๆ กลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ

วันนี้จะมารีวิว Puricas Dragon Blood Scar Gel เจลลดรอยแผลเป็นชื่อดังที่ Blogger ชื่นชอบและรีวิวกันมากมาย บอกเลยว่าเคยเห็นอยู่ใน Favorites of the year ของพี่สายป่านด้วย ก็แอบไปตามหาที่ร้านขายยาอยู่เหมือนกัน แต่หาไม่ได้จ้า สงสัยสาขาต่างจังหวัดเลยยังไม่ค่อยมี 

 
แต่ตอนนี้เค้ามีขายตามร้าน Boots และ Watsons แล้วนะ




เดี๋ยวเรามาดูกันว่าตัวนี้นางจะมีความดีงามยังไงบ้าง

Puricas Dragon’s Blood Scar Gel (เพียวริก้าส์ ดราก้อนบลัด สการ์เจล) เป็นเจลลดรอยแผลเป็นที่นำสารสกัดจากดราก้อนบลัด มาเป็น Active Ingredient ทำให้มีทั้งคุณสมบัติในการลดเลือนรอยแผลเป็น และสมานบาดแผลได้ด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่แตกต่างจากเจลลดรอยแผลเป็นแบรนด์อื่น ๆ และที่สำคัญคือ สามารถใช้ทาบาดแผลได้เลยโดยไม่ต้องรอให้แผลตกสะเก็ด (ในกรณีที่เป็นบาดแผลที่ไม่รุนแรง) ซึ่งการใช้เจลลดรอยแผลเป็นตั้งแต่เกิดแผลเนิ่นๆ จะทำให้โอกาสในการเกิดแผลเป็นนั้นลดน้อยลง

 

สารประกอบสำคัญ

Dragon’s Blood (ดราก้อนบลัด) : ลดอาการอักเสบ บำรุง เติมเต็มชั้นผิว ช่วยให้แผลเรียบเนียน รอยดำดูจางลง

Allium Cepa (สารสกัดหัวหอม) : ลดรอยแผลเป็น และจุดด่างดำให้จางลง

Aloe Vera (ว่างหางจระเข้) : ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการอักเสบจากสิว และรอยแดง รอยดำ

Ipomoea (ผักบุ้งทะล) : ลดการระคายเคือง และผื่นแพ้

Centella Asiatica (ใบบัวบก) : ลดการอักเสบของแผล ช่วยให้รู้สึกแผลนุ่มและดูดีขึ้น

Allantoin (อัลลันโทอิน) : ลดการระคายเคือง

Vitamin E :  เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้แผลเป็น เรียบเนียนขึ้น

Vitamin C : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รอยแดงและจุดด่างดำ และดูจางลง

ส่วนผสมเค้าแน่นมาก เดี๋ยวเรามาลองกันดูดีกว่า

 

แพ็คเกจจะเป็นหน้าตากล่องแบบนี้นะคะ ปริมาณ 8 กรัม ราคา 290 บาท

 

ส่วนผสมหลักจากต้นดราก้อนบลัดซึ่งมีฤทธิ์ในการสมานแผลและช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำลาย และผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยน ผ่านการทดสอบด้านการระคายเคืองทางผิวหนังจากสถานบัน Dermscan Asia สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

สำหรับเนื้อเจลของผลิตภัณฑ์จะเป็นสีเหลืองอมส้ม ใช้เทคโนโลยี Hebanano Action Technology ซึ่งเป็นการผสมผสาน Active Ingredient ทั้ง 8 ชนิดเข้าด้วยกันโดยเนื้อเจลจะมีโมเลกุลเล็กเท่ากับ 10 ยกกำลัง -9 ทำให้สารสกัดต่างๆ ซึมลงสู่ผิวได้ดี

 

เกลี่ยแล้วจะมีความ Watery เป็นน้ำๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว แต่งหน้าต่อได้ไม่เป็นคราบ ตอนทาก็ไม่รู้สึกยิบๆหรือแสบผิวเลยนะ อ่อนโยนมากจริงๆ เห็นเค้าบอกว่าเด็กสามารถใช้ได้ด้วย

 

สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ เน้นให้ใช้วันละ 3-4 ครั้ง ที่สำคัญคือความต่อเนื่องในการใช้ ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอทุกวันต่อเนื่องกัน เพื่อการบำรุงฟื้นฟูผิวอย่างต่อเนื่อง (เช้า - เย็น หลังจากทำความสะอาดใบหน้าแล้ว และก่อนนอนอีกหนึ่งครั้งโดยลงก่อนครีมบำรุงที่ใช้อยู่เป็นประจำ) สำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้าสามารถทาเพิ่มในระหว่างวันได้ เพื่อให้รอยหายได้เร็วยิ่งขึ้นนะคะ

 

และนี่เป็นผลลัพธ์หลังจากที่ฟอยด์ได้ลองใช้กับรอยสิวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ รอยเล็กๆจางลงไปเยอะมาก และแทบไม่ทิ้งรอยดำไว้เลย ส่วนรอยใหญ่หายแดงเร็วมาก รู้สึกว่าแผลสมานตัวเร็วกว่าปกติ คิดว่าใช้ต่อเรื่อยๆรอยก็คงจางหมด แต่คงต้องใช้เวลามากกว่ารอยเล็ก

สรุปคือประทับใจมากกกก คิดว่าทุกคนควรมี เพียวริก้าส์ ดราก้อนบลัด สการ์เจล หลอดนี้ติดบ้านไว้จริงๆ เพราะสามารถใช้ได้กับรอยแผลเป็นอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นจากสิว แผลนูน แผลผ่าตัดก็ใช้ได้หมดเลย ไม่มีพาราเบน แอลกอฮอล์ สเตียรอยด์ และน้ำหอม และยังหาซื้อง่าย แถมราคาไม่แพงด้วย แนะนำจริงๆ

ขนาด 8g ราคา 290 บาท

ขนาด 20g ราคา 690 บาท

หาซื้อได้ที่ Watsons, Boots, Beautrium, Dose, Sun Cosmete, Apex, Health up, U Care, ร้านขายยาในกรุงเทพ ทุกสาขา หรือสั่งทางออนไลน์ www.puricas.net ได้เลยค่า

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ

Bye Bye

Review : ชวนเปิดกล่องนาฬิกา Daniel Wellington รุ่นใหม่ล่าสุด Classic Roselyn พร้อมแจกโค้ดส่วนลด 15%

สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ

เนื่องจากว่าวันนี้ทาง Daniel Wellington เค้าเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด Classic Roselyn และ Classic Bayswater รุ่นที่มีคุณสมบัติคลาสสิคอย่างตัวเรือนที่บาง และสาย NATO อันเลื่องชื่อของทางแบรนด์นั่งเอง ฟอยด์เลยจะมาเปิดกล่องรุ่น Classic Roselyn ให้เพื่อนๆได้ชมกัน  พร้อมบอกโปรโมชั่นดีๆ และแจก Code ส่วนลดอีกเช่ยเคยจ้าตามไปดูกัน



Daniel Wellington แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวีเดน ที่มีความโดดเด่นในสไตล์เรียบหรู จะเน้นไปที่ความบางและหรูหราของหน้าปัด ในรูปแบบที่ดูสะอาดตา ลูกเล่นไม่เยอะจนเกินไป ซึ่งโด่งดังมากในโลก Social ทั้งในไทยและต่างประเทศ จะเห็นดารา เซเลป โพสลง Instagram กันอยู่บ่อยๆ

Classic Roselyn / Classic Bayswater

Classic Roselyn และ Classic Bayswater สำหรับรุ่นนี้จะเป็นสาย NATO สายผ้าแบบออริจินอลที่สุดของแบรนด์ ที่มีน้ำหนักเบา หรูหราสะอาดตา และลูกเล่นไม่เยอะจนเกินไป สามารถเข้าได้กับทุกหน้าปัด

สามารถเลือกได้ทั้ง
- สีของสายนาฬิกา Classic Roselyn สายสีแดงเลือดหมู และ Classic Bayswater สายสีน้ำเงิน
- หน้าปัด สีขาวและสีดำ
- ตัวเรือน สีเงินและสีโรสโกล
- ขนาดหน้าปัด 36 mm และ 40 mm
เรียกว่าเลือกได้ทุกอย่างตามความชอบของแต่ละคนเลย



แต่สำหรับใครที่รักพี่เสียดายน้องก็จัดแบบเซ็ทไปเลยจ้า เพราะนาฬิกาของ Daniel Wellington เค้าเปลี่ยนสายได้ เหมือนได้นาฬิกา 2 เรือนเลยค่ะ



แต่สำหรับใครที่อยากได้ความเท่บวกกับความคลาสสิคก็เค้าก็มีแบบเซ็ทคู่กับกับสายหนังให้เลือกนะคะ



รุ่นที่ฟอยด์เลือก คือ CLASSIC ROSELYN ขนาดหน้าปัด 36 mm

สำหรับวิธีการสั่งซื้อฟอยด์เขียนอธิบายไว้ใน Blog ครั้งที่แล้ว ใครสงสัยตรงขั้นตอนไหนลองเข้าไปดูได้นะคะ
http://foybeautydiary.blogspot.com/2018/02/review-daniel-wellington-15.html





สำหรับรอบนี้ฟอยด์ไม่ได้กดเลือกห่อของขวัญ ก็จะอยู่ในกล่องที่มีความเรียบหรูดูคลาสสิคแบบนี้เลยค่ะ



เปิดกล่องออกมาก็จะเจอกับนาฬิการุ่น CLASSIC ROSELYN ขนาดหน้าปัด 36 mm หน้าปัดสีโรสโกล์ดแบบสายผ้า NATO ดูเท่มากๆเลย โอ้ย ชอบบบ





ป้ายชื่อแบรนด์และชื่อรุ่นค่ะ สำหรับใครซื้อจากที่อื่นก็ระวังกันดีๆน๊า เพราะมีของปลอมเยอะมาก





หน้าปัดสีขาว ตัวเรือนสี Rose Gold สวยทุกมุมจริงๆ





อะไหล่ก็เป็นสี Rose Gold หมดเลย ชอบมาก





รุ่น ROSELYN นี้สายจะเป็นสีทับทิมแดง ฟอยด์ว่ามันดูหรูดูแพง ใส่แล้วดูขับผิวมาก



สายจะลอดผ่านใต้ตัวเรือนด้วย เวลาเหงื่อออก ตัวเรือนไม่มาติดกับผิวให้รู้สึกคันหรือรำคาญเลย



หลังจากได้ลองใช้มาซักพักต้องบอกว่าชอบมากไม่แพ้รุ่น CLASSIC PETITE MELROSE เลย ตัวนี้จะเน้นไปที่ความเบาสบาย เหงื่อออกก็ไม่รู้สึกคัน หรือรำคาญ ใส่แล้วรู้สึกเท่ ดูมีสไตล์ เข้าได้กับทุกลุค วัสดูดูคงทนแข็งแรง ใครมองหานาฬิกาแบรนด์ดีๆซักเรือนแนะนำ Daniel Wellington จริงๆค่ะ



สุดท้ายนี้ลองเทียบขนาดหน้าปัดให้ดูนะคะ 
รุ่น CLASSIC PETITE MELROSE 32 mm
CLASSIC ROSELYN 36 mm

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ สามารถเข้าไปเลือกดูกันได้ที่
https://www.danielwellington.com/th/
พร้อมทั้งใช้ code "Foybeauty15" จะได้ลดทันที 15 % ทั้งเว็บไซต์เลยค่ะ
และโค้ดส่วนลดนี้สามารถใช้ได้ยาวๆถึง 15 สิงคาคมเลยจ้า

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ

Bye Bye

Review : เซ็ทน้ำนมบำรุงผิวหอมฟินๆ จากแบรนด์ Le’ SKIN

สวัสดีค่ะสาวๆกลับมาพบกับฟอยด์กันอีกแล้วนะคะ

วันนี้จะมารีวิวเซ็ทน้ำนมบำรุงผิวหอมฟินๆ จากแบรนด์ Le’ SKIN ซึ่งเพื่อนๆน่าจะเคยเห็นผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เพราะเค้ามีวางจำหน่ายในเซเว่นด้วยค่ะ ชาวจีนนี่เหมาโฟมน้ำนมกันตลอดๆ ส่วนตัวฟอยด์เองก็ซื้อมาส์กเค้ามาใช้อยู่เป็นประจำเหมือนกัน เพราะราคาถูกมากแค่ 45 บาท แต่ใช้แล้วผิวนุ่มเด้งมากกกก ก.ไก่ล้านตัว แต่สำหรับวันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกันครบทั้งไลน์เลยค่ะ ว่าในไลน์ Happy Milk Series นี้มีอะไรน่าใช้บ้าง ตามไปดูกันเล้ยยย

แบรนด์ Le’ SKIN เค้าเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2003 แล้วค่ะ และผู้บริหารก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้อาร์ Aremakeup ผู้เชี่ยวชาญในวงการบิวตี้มาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยประสบการณ์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ได้ถูกอกถูกใจผู้บริโภคอย่างเราๆแน่นอน 

 

ผลิตภัณฑ์ตัวดังของเค้าก็จะเป็นเซรั่มหอยทาก กลุ่มของ Snail Series ที่ขายดิบขายดีไปถึงต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้เค้าก็ได้ออกคอลเลคชั่นน้องใหม่ Happy Milk Series เอาใจกลุ่มเป้าหมายทาสนมทั้งหลาย ในราคาที่จับต้องง่ายมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมหลักของไลน์นี้ก็จะมี

- Milk Protein โปรตีนโมเลกุลเข้มข้นที่อยู่ในน้ำนม ช่วยต่อต้านริ้วรอย ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ปรับให้ผิวดูกระจ่างใส

- Neurophroline สารสกัดจากพืชโบราณในประเทศอินเดีย มีคุณสมบัติช่วยลดฮอร์โมนที่ทำให้ผิวเกิดความตึงเครียด ส่งผลให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื่น

- Collagen ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เรียบเนียน กระชับ

- Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองและต่อต้านการแพ้ต่างๆของผิว

- Trehalose น้ำตาลธรรมชาติสกัดจากข้าวโพด ช่วยรักษาปริมาณระดับน้ำในผิวชั้นบน เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื่น เนียนนุ่มน่าสัมผัส

- Aloe Vera Extract ช่วยให้แผลเป็นจางลง ปกป้องผิวจากแสงแดด ให้ผิวใสอ่อนวัย

เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักแต่ละตัวกันเลยดีกว่า

1. Le’ SKIN Milk Facial Foam (100 ml / 120 บาท) โฟมล้างหน้าสูตรน้ำนม ผิวสะอาดพร้อมบำรุงในขั้นตอนเดียว ตัวนี้แหละโฟมนมขวัญใจชาวจีนเค้าเลยจ้า

เนื้อโฟมสีขาว เนื้อนุ่มมาก กลิ่นหอมแบบนมผสมโยเกิร์ต ไม่หวานเลี่ยน เนื้อโฟมตีฟองได้นุ่มละมุนมาก โดยไม่ต้องใช้ตาข่ายตีฟองเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ ฟองโฟมนุ่มละเอียด กลิ่นหอม ล้างสะอาด ผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง

2. Le’ SKIN Milk Facial Mask (45 บาท) มาส์กบำรุงผิวหน้าสูตรน้ำนม หน้าเนียนเด้ง เร่งฟื้นบำรุงผิวกระจ่างใสในข้ามคืน ตัวนี้มาส์กลูกรักที่ต้องมีติดกรุไว้ตลอดเลยค่ะ เพราะใช้ดีจริงๆ

ฉีกซองออกมาแล้วก็จะพบว่าน้ำมาส์กฉ่ำมงจนน่าตกใจ ให้มาเยอะมาก ชุ่มฉ่ำมาก ในซองที่เหลือๆเอาไปทาแขนขาหรือตามบริเวณที่ศอกดำเข่าด้านได้สบายเลยค่ะ

ตัวชีทมาส์กเค้าติดมากับแบบพลาสติก ซึ่งดีมาก จะช่วยให้เราแกะแผ่นมาส์กออกแล้ววางไปในตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย อย่างบางแบรนด์ที่ไม่มีแผ่นพลาสติกติดมา กว่าจะคลี่แผ่นมาส์กออกได้ขาดไปหลายจุดค่ะ พูดเลย จากใจมนุษย์ชอบมาส์กหน้าเกือบทุกวัน

ตัวแผ่นมาส์กทำจากใยไหม มีความบางแนบสนิทไปกับผิวหน้าได้ดี แต่ก็ยังสามารถอุ้มน้ำมาส์กไว้ได้ตลอดระยะวลา 15-20 นาทีเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ แผ่นมาส์กแนบหน้าดีมาก กลิ่นหอมนมฟินๆ ขณะมากส์ไม่แสบ ไม่ยิบผิวเลย หลังจาก 20 นาทีดึงแผ่นมาส์กออก ผิวฉ่ำมากกกกก หลังจากนั้ก็ไปล้างออก ผิวนุ่มเด้ง และชุ่มชื่นขั้นสุด และดูกระจ่างใสขึ้น อยากให้ลองจริงๆค่ะ

3. Le’ SKIN Milk Face Cream (30 ml / 490 บาท) ครีมบำรุงผิวสูตรน้ำนม เพื่อผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส เปล่งประกายออร่า ตัวนี้แพ็คเกจเค้ามีความเป็นกล่องนม น่ารักน่าใช้สุดๆไปเลย

เนื้อครีมสีขาว เนื้อเข้มข้น เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื่นดีมาก กลิ่นหอมนมฟินๆอีกแล้วค่ะ

วิธีใช้ แต้มเนื้อครีมให้ทั่วไปหน้า แล้วค่อยๆนวดจนซึมเข้าผิว

ความรู้สึกหลังใช้ ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น ฟอยด์จะชอบใช้ตอนกลางคืน เหมือนให้ผิวได้ดื่มนมก่อนนอน อิอิ ตื่นเช้ามาผิวนุ่มเด้งมากค่ะ เลิฟเลยยย

4. Le’ SKIN Milk Facial Mist (120 ml / 190 บาท) สเปรย์น้ำแร่สูตรน้ำนม เพื่อผิวนุ่มสดชื่น เพิ่มความกระจ่างใส ล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวได้ทั้งวัน

วิธีใช้ ฉีดพ่นบำรุงผิวหน้าเป็นประจำทุกเช้า – เย็น และในเวลาที่ต้องการความสดชื่น

ความรู้สึกหลังใช้ ปกติเป็นคนชอบใช้สเปรย์น้ำแร่อยู่แล้ว แต่ตัวนี้มีน้ำนมด้วยก็ดีนะเหมือนได้บำรุงเพิ่มขึ้นในขั้นตอนเดียว หัวสเปรย์ละเอียดดี ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีมากค่ะ

5. Le’ SKIN Milk Bath Cream (450 ml / 195 บาท) ครีมอาบน้ำสูตรน้ำนม อาบผิวเด้ง เร่งผิวใส เปล่งประกายออร่า ตัวนี้เค้าเป็นหัวปั้มมาให้ด้วย ใช้งานง่ายดีค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมอาบน้ำ เป็นเนื้อน้ำนมเลย ค่อนข้างเหลว ปริมาณฟองกำลังดีค่ะ ไม่ได้เยอะหรือน้อยเกินไป ด้วยความที่เนื้อไม่ได้ข้นมาก ก็เลยล้างออกง่าย ไม่ใช่ฟีลลื่นๆเหมือนล้างไม่สะอาด ผิวนุ่มชุ่มชื่นดีค่ะ

6. Le’ SKIN Milk Body Lotion (250 ml / 195 บาท) โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำนม เพื่อผิวกระจ่างใส เปล่งประกายออร่า ตัวนี้ก็เป็นขวดปั้มเหมือนกัน

ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อโลชั่นค่อนข้างเหลวมาก ตอนแรกบีบออกมายังนึกว่าหยิบผิดเป็นครีมอาบน้ำซะอีก เนื้อบางเบามาก แต่ชุ่มชื่นมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นดีมากๆค่ะ กลิ่นหอมนมฟินๆอีกเช่นเคย

ก็หมดไปแล้วนะคะสำหรับ Le’ SKIN ในไลน์ Happy Milk Series ทั้ง 6 ตัว ต้องบอกว่าเรื่องกลิ่นฟินชนะเลิศไปเลยค่ะ กลิ่นนมหอมกว่าหลายๆแบรนด์ที่เคยใช้มา หอมนมน๊มผสมโยเกิร์ตนิดๆ ไม่หวานเลี่ยน ไม่เวียนหัว ส่วนผสมอื่นๆก็น่าสนใจหลายตัว เรียกว่าช่วยฟื้นบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่นได้จริงๆค่ะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มที่ตัวไหน เดินเข้าเซเว่นไปหยิบมาส์กมาลองก่อนเลยค่ะ #ของมันต้องมี จริงๆค่ะซิส

สามารถหาซื้อได้ที่

เดอะมอลล์ The mall / อีฟแอนด์บอย  Eveandboy / เอ็มโพเรี่ยม Emporium  / พารากอน Siam Paragon / เอ็มควาเทียร์ Emquartier / คิงพาวเวอร์ King Power / สตาร์ดัส Stardust / แม็กซ์แวลู่ Maxvalue/ เซเว่น แคทตาล็อก 7 Catalog / เซเว่นอีเลฟเว่น 7-11 / โฮมเฟรซมาร์ท Home fresh mart / ซีเจเอ็กเพรซ  Cj express / ลอว์สันต์ Lawson

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่

Facebook : Leskinthailand

IG : Leskinthailand

Line : @Leskinthailand

www.leskinthailand.com

สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

แล้วพบกันใหม่ Blog หน้าค่ะ

Bye Bye